บทความดังต่อไปนี้ได้รับการแปลมาจากบทความต้นฉบับภาษาอังกฤษซึ่งสามารถอ่านได้จากลิงค์ดังนี้: THE TRUTH ABOUT EXODUS ROAD

องค์กรป้องกันการค้ามนุษย์ ดิเอ็กโซดัสโร้ด (The Exodus Road) ถูกสร้างขึ้นโดย แมทต์ ปาร์คเกอร์ (Matt Parker) (เขาลบโปรไฟล์ LinkedIn ของเขาออกหลังจากเราลิ้งค์ไปหา) และ ลอร่า ปาร์คเกอร์ (Laura Parker) พวกเขาทั้งคู่ย้ายมาประเทศไทยและต้องการที่จะอยู่ที่นี่ในระยะยาว ดังนั้นพวกเขาจึงมีความคิดที่จะเริ่มมูลนิธิเพื่อให้สามารถอยู่ที่นี่ในระยะยาว ข้อมูลการเงินของพวกเขาบอกว่า แมทต์ ปาร์คเกอร์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารฝ่ายบริหารที่รับเงินถึง 148,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีและภรรยาของเขา ลอร่า ปาร์คเกอร์ รับเงินประมาณ 130,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (รวมทั้งสิ้น 278,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีหรือประมาณ 9,839,760 บาทไทย) ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเงินเดือนเฉลี่ยในประเทศไทยที่อยู่ที่ประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนเท่านั้น

เซเลสต์ แมคกี้ (Celeste McGee), ผู้อำนวยการบริหารและผู้ก่อตั้งองค์กรป้องกันการค้ามนุษย์ Dton Naam ซึ่งช่วยเหลือเด็กชายและบุคคลเพศที่สามที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเพศ ชี้ให้เห็นว่าคู่สามีภรรยาพาร์คเกอร์มีรายได้รวมกันถึง 23,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนหรือกว่า 831,611 บาท

“ตัวเลขนี้น่าตกใจมาก” แมคกี้ กล่าว “พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีรายได้ 23,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนแม้ว่าพวกเขาต้องเดินทางไปมาระหว่างประเทศไทยและสหรัฐฯ”

ข้อมูลทางการเงินของ The Exodus Road: https://theexodusroad.com/financials/

บทความนี้จะกล่าวถึงปัญหาต่อไปนี้ของ The Exodus Road

  1. การส่งเสริมพฤติกรรมทางเพศของผู้หญิงในบาร์และซ่องซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวน
  2. การใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องเพศในองค์กร
  3. การใช้เงินบริจาคเพื่อการกุศลขององค์กรสำหรับดื่มและสังสรรค์กับผู้ขายบริการ
  4. การใช้เงินบริจาคเพื่อการกุศลเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้ขายบริการ
  5. รายได้ที่มากเกินไป การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย และรูปแบบการใช้ชีวิตที่หรูหราผิดปกติของผู้บริหารระดับสูงที่เน้นไปที่ผลประโยชน์ส่วนตัวซึ่งตรงข้ามกับการช่วยชีวิตผู้หญิง
  6. การจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ที่ทุจริตเพื่อโยนผู้บริสุทธิ์ขึ้นศาล
  7. การเรียกเก็บเงินอาสาสมัคร 4,500 ดอลลาร์เพื่อไปบาร์โดยอ้างว่าเป็นไปเพื่อการกุศล
  8. การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างไม่สุภาพ
  9. จำนวนเงินเดือนที่จ่ายให้กับพนักงานระดับสูงสองคนซึ่งเป็นคู่สมรสกัน
  10. วิธีการที่องค์กรใช้ในการนับจำนวนคนที่ระบุว่าได้ช่วยเหลือ
  11. การเยี่ยมชมบาร์เบียร์เพื่อค้นหาเด็กผู้หญิงที่ใช้บัตรประจำตัวปลอมหรือของเพื่อนมาทำงานที่บาร์ และบังคับให้พวกเขาให้การว่าถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์โดยนายจ้าง
  12. ข้อกล่าวหาที่ว่า เมื่อพวกเขาไม่พบเด็กผู้หญิงที่ถูกค้ามนุษย์ พวกเขาก็มักจัดฉากเด็กอายุ 16 หรือ 17 ปีที่ใช้บัตรประจำตัวของพี่สาวในบาร์ไปขอเข้าทำงาน แล้วบุกจับกุมเพื่อสร้างเครดิตให้กับองค์กร ดังนั้น เด็กผู้หญิงที่พวกเขาอ้างว่าได้ให้การช่วยเหลือก็คือเด็กผู้หญิงที่พวกเขาบังคับให้ไปสมัครงานที่บาร์เพื่อเรียกเงินบริจาค
  13. การไม่บอกเจ้าของธุรกิจว่าเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกำลังทำงานอยู่ในบาร์ของพวกเขา และการบังคับเด็กให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่เพื่อประโยชน์ขององค์กร

คลิกที่นี่เพื่อดู จดหมายเปิดผนึก The Exodus Road – หลักฐานที่ดีที่สุดที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างของเรา

เวอร์ชันภาษาไทย

พยาน/ผู้ลงนามร่วมด้านล่าง (ส่วนใหญ่เป็นอดีตพนักงานของ The Exodus Road)

The Exodus Road ทำเงินได้มากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?

The Exodus Road ไม่ได้ช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการได้รับการช่วยเหลือ แต่พวกเขาแอบไปสำรวจบาร์ในเวลากลางคืนพร้อมกับกล้องที่ซ่อนอยู่ซึ่งผิดกฎหมายเพื่อค้นหาเป้าหมายง่ายๆ โดยใช้เงินบริจาคเพื่อการกุศลซื้อบริการทางเพศกับหญิงขายบริการและอ้างว่าทำไปเพื่อการสืบสวน ในอุตสาหกรรมสถานบรรเทิง ผู้หญิงจำนวนมากใช้บัตรประจำตัวปลอมหรือยืมเพื่อนที่อายุเข้าเกณฑ์เพื่อหลอกเจ้าของธุรกิจสถานบรรเทิงเพื่อให้ได้งาน (ลิงก์ไปยังบทความอื่นเพื่อเป็นหลักฐานอยู่ด้านล่างและในจดหมายเปิดผนึก)

แทนที่จะเตือนเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่ทำงานในบาร์ของพวกเขา The Exodus Road กลับหาประโยชน์จากเด็กผู้หญิงเหล่านี้ โดยพวกเขากำหนดเป้าหมายไปที่บาร์กลางแจ้งในประเทศไทยที่ผู้หญิงเข้าออกได้อย่างอิสระ เมื่อพวกเขาพบเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยส่วนมากเลือกที่จะทำงานในอุตสาหกรรมทางเพศเอง) พวกเขาก็จะบังคับให้เด็กเหล่านี้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกนายจ้างบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า และให้เงินเดือนจำนวนมากในขณะที่การพิจารณาคดีดำเนินอยู่ พวกเขาให้เหตุผลว่าการใช้เงินบริจาคในบาร์กับหญิงค้าบริการทำไปเพื่อมองหาผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ

วิธีนี้ช่วยให้ The Exodus Road ประหยัดเงินได้มาก เพราะไม่จำเป็นต้องตรวจสอบหรือเสี่ยงเข้าไปสถานที่อันตรายซึ่งมีผู้หญิงที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่จริงๆ (องค์กรการกุศลอื่นๆ บอกว่าหายากมากที่ผู้ให้บริการทางเพศถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่เหยื่อเหล่านี้มักเป็นเด็ก) นี่คือสาเหตุที่ The Exodus Road ใช้ประเทศที่ทุจริต เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้

จากนั้น เมื่อไม่พบเด็กผู้หญิงที่ถูกค้ามนุษย์จริงๆ พวกเขาพยายามยัดเยียดเด็กอายุ 16 หรือ 17 ปีโดยใช้บัตรประจำตัวของพี่สาวในบาร์แล้วให้ไปสมัครงานในบาร์ ดังนั้นเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวที่พวกเขากำลังช่วยเหลือก็คือเด็กผู้หญิงที่พวกเขาบังคับให้ไปทำงานเพื่อรวบรวมเงินบริจาค

มีคนจำนวนมากแห่เสนอเงินมากถึง 20,000 บาทให้พนักงานตามสถานบันเทิงในประเทศไทย จ้างผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ The Exodus Road แจ้งเรื่องให้ตำรวจบุกจับเจ้าของบาร์ผู้บริสุทธิ์ พวกเขาประหยัดเงินด้วยวิธีการนี้เพื่อให้ได้รับเงินเดือนก้อนโต แต่แล้วผู้บริสุทธิ์ก็เข้าคุก

เหตุใด The Exodus Road จึงพยายามปกปิดตัวตนในโลกออนไลน์

องค์กรป้องกันการค้ามนุษย์ส่วนใหญ่มีศูนย์ช่วยเหลือจริงๆ ซีอีโอและพนักงานก็ไม่ได้ปิดบังชื่อ และพวกเขามีบัญชีโซเชียลมีเดียจริงๆ ซึ่งสามารถตรวจสอบองค์กรการกุศลลักษณะนี้ในประเทศไทยได้ที่ https://thefreedomstory.org/ พวกเขาช่วยเหลือเด็กๆ จากค่ายแรงงาน และพวกเขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อดูแลเด็กๆ เรื่องเลวร้ายที่ The Exodus Road กระทำอีกประการหนึ่งคือ การแย่งเงินบริจาคไปจากองค์กรการกุศลที่ตั้งใจทำงานจริงๆ อย่าง The Freedom Story นั่นเอง

พนักงานนอกเครื่องแบบของ The Exodus Road แอบเข้าไปในบาร์ในประเทศไทยเพื่อสนุกสนานและมีเซ็กส์ และส่งเจ้าของบาร์ผู้บริสุทธิ์เข้าคุก ซึ่งไม่มีเจ้าของบาร์คนไหนรู้ว่าจ้างเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

ศาสนาที่พวกเขาซ่อนไว้พูดอะไรเกี่ยวกับการกระทำเหล่านี้?

‘เยเรมีย์ 22:3 (NIV) “นี่คือสิ่งที่พระเจ้าตรัส: ‘ทำสิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้อง’ ช่วยกู้จากเงื้อมมือของผู้กดขี่ผู้ที่ถูกปล้น อย่าทำผิดหรือทำร้ายคน ลูกกำพร้าพ่อ หรือแม่ม่าย และอย่าทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งเลือดในสถานที่นี้”

“สุภาษิต 17:15 ฉบับสากลใหม่ (NIV)

ทรงยกโทษผู้กระทำความผิดและประณามผู้บริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรังเกียจพวกเขาทั้งสอง”

ทำไมพวกเขาถึงผิดจรรยาบรรณ?

พวกเขาควรจะช่วยเหลือคดีค้ามนุษย์อย่างแท้จริง เพราะนั่นคือสิ่งที่ผู้บริจาคคิดว่าพวกเขาจ่ายเงินไป แต่พวกเขากำลังใช้วิธีที่ไม่ถูกต้อง เขาใช้เงินของผู้บริจาคเพื่อจ่ายค่าบริการทางเพศ จ่ายเงินให้ประเทศและเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตเพื่อจัดฉากนำผู้บริสุทธิ์เข้าคุก และใช้เงินของผู้บริจาคไปเที่ยวในบาร์เพื่อเที่ยวผู้หญิง โดยอ้างว่าทำไปเพื่อมองหาเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แล้วพวกเขารู้ได้อย่างไรว่าใครยังไม่บรรลุนิติภาวะ?? เราได้รับข้อมูลว่าพวกเขามีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวเหล่านี้เพื่อขอข้อมูล

แมทต์ ปาร์คเกอร์ กล่าวว่าแม้ว่าผู้หญิงเหล่านี้จะเลือกทำงานในบาร์ด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากพวกเธออายุ 16 ถึง 17 ปี จึงถือว่าพวกเธอทำไปอย่างไม่ถูกต้อง ดังนั้น The Exodus Road จึงสร้างคดีการค้ามนุษย์ที่ไม่ซื่อสัตย์เพื่อขอรับบริจาคมากขึ้น จากนั้นเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะก็ถูกกฎหมายขู่ และได้รับเงินเดือนเพื่อบอกว่าถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แม้จะมีหลักฐานว่าหลอกเจ้าของธุรกิจด้วยบัตรประจำตัวของคนอื่น และขายบริการให้ลูกค้าด้วยตนเองก็ตาม

มีคนถามว่าทำไม The Exodus Road ไม่ไปทำแบบนี้ในสหรัฐอเมริกา นั่นเป็นเพราะว่า เนื่องจากการสืบสวนมีราคาแพงเกินไปและมีเงินทอนเหลือน้อย นอกจากนี้ มันไม่สนุกเท่ากับการไปเที่ยวในบาร์เพื่อหาเด็กไม่บรรลุนิติภาวะ  นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ติดตามคดีค้ามนุษย์ในประเทศอื่นเพราะมันมีราคาแพง ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกจับเจ้าของธุรกิจผู้บริสุทธิ์เข้าคุกในประเทศที่ทุจริตในขณะที่ซ่อนตัวอยู่หลังศาสนาเพื่อรับเงินบริจาค

แมทต์มักพูดเสมอว่าเขาไม่ชอบทำงานร่วมกับประเทศที่ทุจริตอย่างประเทศไทย แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ใช้ประโยชน์จากการคอร์รัปชั่นเพื่อให้องค์กรได้รับเงินบริจาคมากขึ้น

เรากำลังมองหาผู้แจ้งเบาะแสเพื่อช่วยเราหยุดยั้งองค์กรที่ชั่วร้ายนี้ องค์กรที่ใช้ประโยชน์จากเงินบริจาคเพื่อทุ่มไปกับการเที่ยวบาร์และสนับสนุนวิถีชีวิตฟุ่มเฟือยของผู้นำองค์กรในประเทศไทย

แมทต์ ปาร์คเกอร์เรียกเก็บเงินจากองค์กรการกุศลอื่นๆ ถึง 250 USD ต่อชั่วโมงเพื่อสอนวิธีหาเงินให้ได้แบบเขา นี่ฟังดูเหมือนเขาเป็นคนใจบุญอยู่หรือไม่?

https://www.linkedin.com/in/matt-parker-ab98a255/

ในย่อหน้าต่อไปนี้นำมาจากบทสัมภาษณ์ของแมทต์ ปาร์คเกอร์ เขายอมรับว่ากำลังมองหาทางที่จะอยู่ในประเทศไทยต่อไปหลังจากมีปัญหากับองค์กรเอกชนอื่น และเขาแสร้งว่าตำรวจไทยต้องการความช่วยเหลือจากเขา แต่ความจริงนั้น ตำรวจไม่ต้องการความช่วยเหลือจากแมทต์ ปาร์คเกอร์ และตำรวจบางนายยังบอกเราด้วยว่าเขากำลังสร้างปัญหามากมาย คนไทยไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับผู้บริสุทธิ์ แต่แมทต์ใช้องค์กรการกุศลของเขากระทำการที่ไม่บริสุทธิทำให้ตำรวจและอัยการไทยต้องโยนผู้บริสุทธิ์มากมายขึ้นศาลเพื่อปกป้องตัวเอง ทั้งหมดเพื่อให้แมทต์ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริจาค คุณสามารถอ่านบทสัมภาษณ์ของเขาได้ที่นี่ เขายังโกหกด้วยว่าเขาได้รับมอบหมายงานจากตำรวจไทยซึ่งไม่เป็นความจริง คุณจะเป็นทำแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเกิดในประเทศไทยและเป็นคนไทยโดยกำเนิด

แอมเบอร์ แวน เอสเวลด์ (Amber Van Esseveld) คือใคร?

แอมเบอร์เขียนหนังสือหลายเล่มและเกี่ยวข้องกับ The Exodus Road ในฐานะผู้สนับสนุนและผู้เล่นคนสำคัญ ทีมงานของเราติดต่อเธอหลายครั้งเพื่อขอให้เธอตอบข้อกล่าวหามากมายเกี่ยวกับแมทต์ ปาร์คเกอร์ และวิธีการดำเนินงานของ The Exodus Road แต่เธอกลับไม่ตอบกลับและไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ซึ่งเป็นเรื่องตลกมากที่พวกเขามักให้สัมภาษณ์และเขียนหนังสือเพื่อรวบรวมเงินบริจาคอยู่สม่ำเสมอ แต่กลับกันพวกเขากลับพยายามปกปิดตัวตนในโลกออนไลน์ และไม่ยอมออกมาตอบข้อกล่าวหาใดๆ สามารถดูโปรไฟล์ของแอมเบอร์ได้ที่ https://www.instagram.com/ambernvan/

แมทต์คิดเงินอาสาสมัครกว่า 4,500 ดอลลาร์เพื่อพาไปเที่ยวกลางคืน!

แมทต์ผู้ก่อตั้ง The Exodus road ได้รับการตักเตือนหลายครั้งให้หยุดพาอาสาสมัครไปเที่ยวสถานบรรเทิงเพื่อใช้พวกเขาเป็นสายลับโดยทำเป็นว่าพวกเขากำลังทำงานการกุศล แมทต์เรียกเก็บเงินจากอาสาสมัครเหล่านี้กว่า 4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่ออาสาสมัคร 1 คน แต่พวกเขากลับไม่เคยมีส่วนร่วมช่วยแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจัง นอกจากนี้อาสาสมัครส่วนใหญ่มักเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้วที่สมัครเข้าร่วมโปรแกรมของแมทต์เพื่อเป็นข้ออ้างในการไปเที่ยวผู้หญิงอีกด้วย

“งานของอาสาสมัครพวกนี้เป็นเรื่องหลอกลวง” เอริค ชาร์ค อดีตนักสืบอาวุโสของ The Exodus Road ผู้ซึ่งเคยมีปัญหากับองค์กรเกี่ยวกับเรื่องนี้และประเด็นอื่น ๆ กล่าว ซึ่งส่วนใหญ่มีรายละเอียดอยู่ในจดหมายเปิดผนึก (The Exodus Road อ้างว่า ชาร์ค “ไม่ใช่แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ”)

ชาร์คกล่าวเพิ่มเติมว่า การฝึกอบรมสำหรับอาสาสมัครเหล่านี้ไม่เพียงพอ ระหว่างปี 2558 ถึง 2560 เขากล่าวว่าเขาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ 6-8 คน โดยมีอาสาสมัคร 4-8 คนในแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายซึ่งมีภูมิหลังเป็นศิษยาภิบาล ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ NGO

อาสาสมัครเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้เกิดการทลายขบวนการค้ามนุษย์ใดๆ ที่เขาทราบ ชาร์คกล่าว

อดีตนักสืบอาวุโสท่านนี้ยังกล่าวด้วยว่า เขาเคยเรียกร้องให้แมทต์ ปาร์คเกอร์หยุดใช้อาสาสมัครเหล่านี้เพราะมีคนจำนวนมากที่ต้องรับผิด อย่างน้อยครั้งหนึ่งเขาเคยตักเตือนให้อาสาสมัครที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งด้วยการไล่ออก แต่แมทต์กลับไม่ยอมหยุด “เขาชอบพาผู้คนไปสถานบรรเทิงเพราะมันช่วยหาเงินให้กับองค์กร” ชาร์คกล่าว

คนเหล่านี้จ่ายเงินถึง 4,500 ดอลลาร์เพื่อเป็นอาสาสมัคร ซึ่งรวมถึงค่าตั๋วเครื่องบินและค่าใช้ต่างๆ ตามข้อมูลในเว็บไซต์ของ The Exodus Road อาสาสมัครจะต้องมีอายุอย่างน้อย 30 ปี และผ่านการทดสอบภูมิหลังและการประเมินทางจิตวิทยา ซึ่งมักมีประมาณ 30% ที่ผ่านการทดสอบ โดยองค์กรยังอ้างว่าพวกเขามีการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการรวบรวมหลักฐาน การใช้อุปกรณ์ และการดำเนินการรวบรวมข่าวกรองให้กับผู้สมัครก่อนลงสนามอีกด้วย แต่กลับกัน ชาร์คกลับบอกว่าการฝึกส่วนใหญ่เป็นการ “ด้นสด” เอาซะมากกว่า

ลิงค์บทความเกี่ยวกับพฤติกรรมของแมทต์ ปาร์คเกอร์ในองค์กร The Exodus Road

แมทต์ ปาร์คเกอร์ ซีอีโอของ The Exodus Road เลือกเหยื่อของเขาอย่างชาญฉลาด เช่น เจ้าของบาร์จากชาติตะวันตกที่เขาคิดว่าจะไม่หาทางสู้กลับเมื่อเขาแจ้งความจับ และเขามักเลือกทำงานกับเด็กผู้หญิงที่ยอมรับเงินจากเขาเท่านั้น เพื่อจ้างให้เด็กให้ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับนายจ้างของพวกเธอ อีกทั้งแมทต์ยังชอบพูดจาดูหมิ่นผู้หญิงไทยอีกด้วย ดังที่อดีตพนักงานลูกครึ่งไทย อเมริกันคนนี้กล่าวไว้ว่า

“เมื่อตอนฉันอายุ 24 ฉันถูกขอร้องให้ติดตามแมทต์ ปาร์คเกอร์ไปเที่ยวบาร์แห่งหนึ่งในพัทยาและแกล้งเป็นแฟนสาวของเขา สถานการขณะนั้นมันช่างน่าอึดอัดเพราะฉันเคยแต่ทำงานในออฟฟิศและไม่เคยได้รับการฝึกให้ทำภารกิจลักษณะนี้ ฉันไม่แน่ใจเลยว่าการไปเที่ยวครั้งนั้นมันเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนหรืออะไรกันแน่ และฉันไม่เคยได้รับการอธิบายใดๆ เลยหลังจากนั้น” 

ในขณะที่อยู่ในบาร์ หญิงท่านนี้ได้พูดคุยกับ “แมน” เด็กสาววัย 16 ปีรายหนึ่งที่ทำงานในบาร์ ในบทสนทนาที่น่าหดหู่นั้น หญิงสาวได้บอกเธอว่าเธอต้องขายพรหมจรรย์ของเธอ ซึ่งในขณะนั้นเธอพูดด้วยท่าทางเรียบเฉย ไม่ได้รู้สึกกลัว หดหู่ หรือถูกวางยาแต่อย่างใด “ราวกับว่าเด็กหญิงยอมรับไปแล้วว่านี่คืองานของเธอในตอนนั้น” อดีตพนักงานของ The Exodus Road กล่าว

อย่างไรก็ตาม อดีตพนักงานท่านนี้ แมทต์ ปาร์คเกอร์ และนักสืบอีกคนหนึ่งที่ติดตามไปก็ออกมาจากบาร์โดยไม่ได้ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือแมนแม้แต่น้อย “เราจะทำอย่างไรเพื่อช่วยเธอ?” อดีตพนักงานถามแมทต์ “เราไม่สามารถช่วยผู้หญิงทุกคนได้” เขาตอบ

ในอีกเหตุการณ์หนึ่ง ขณะทำหน้าที่เป็นล่ามให้แมทต์ ปาร์คเกอร์ระหว่างพูดคุยกับทนายชาวไทยกลุ่มหนึ่ง อดีตพนักงานรายนี้ได้สนทนานอกเรื่องเป็นภาษาไทยกับกลุ่มนักกฎหมาย ซึ่งทำให้แมทต์ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงขนาดว่าเขาต้องเตือนเธอภายหลังว่าเธอไม่ควรพูดกับคนอื่น เพราะเธอควรเป็น “หญิงไทยที่ยอมจำนน”

“ฉันตอบแมทต์ไปว่า ‘อะไรนะ! ถึงฉันจะเป็นคนไทย แต่ฉันก็มีสัญชาติอเมริกัน” เธอกล่าวว่าคำพูดของแมทต์เป็นการดูถูกเธออย่างมาก แฟนของเธอในตอนนั้นซึ่งตอนนี้เป็นสามีแล้ว ยืนยันว่าแมทต์พูดจาลักษณะนี้ถึงสองครั้ง

อ่านเพิ่มเติม

โปรดอ่านบทความต่อไปนี้

คนเลวไม่เคยสิ้นลาย คนรวยใช้เงินซื้อความถูกต้อง แต่คนดีจะยืนหยัดลุกขึ้นสู้อย่างแน่นอนในที่สุด

https://gobserver.net/4806/global-diaries/thailand/furor-erupts-over-anti-sex-trafficker-exodus-road/

Global Observer: คำให้การของอดีตพนักงาน The Exodus Road 

“สัญญาณอันตรายสำหรับ อริสัน เว็บเบอร์ (Allison Weber) เริ่มต้นขึ้นก่อนที่เธอจะเริ่มทำงานกับ The Exodus Road ด้วยซ้ำ ในงานเลี้ยงอาหารค่ำในประเทศไทยกับ แมทต์ ปาร์คเกอร์ และคู่รักอื่นๆ อีกสองสามคู่ แมทต์ขอร้องให้เธอไปทัวร์ย่านสถานบริการในเมืองพัทยากับเขา เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่ามันแย่แค่ไหน

อริสันกล่าวว่า เธอไม่มีความสนใจที่จะไป เธอเคยไปบาร์อะโกโก้และสถานขายบริการมาแล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานของเธอที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกค้ามนุษย์  “สถานที่เหล่านี้ช่างน่าหดหู่ มันเป็นที่ๆ ผู้ชายปฎิบัติกับผู้หญิงราวของเล่น มันรุนแรงมาก” เธอกล่าว เธอรู้สึกประหลาดใจที่คนอย่างแมทต์ที่เป็นถึงซีอีโอขององค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ต่อสู้กับการค้ามนุษย์ต้องการไปทัวร์สถานที่เหล่านั้น

นอกจากนี้ แมทต์ยังบังคับให้พนักงานเพศชายคนอื่นๆ ไปที่นั่นด้วย เขาพูดประมาณว่า: คุณต้องขี้ขลาดขนาดไหนถึงไม่กล้าไป? “สามีของฉันไม่พอใจคำพูดนี้มาก” อริสันกล่าว “คำพูดนั้นเป็นการล้ำเส้นมากเกินไป”

ข้อกล่าวหาอื่นๆ เกี่ยวกับ The Exodus Road ได้แก่:

— การส่งเสริมพฤติกรรมทางเพศกับผู้หญิงในบาร์และซ่องซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของการ “สืบสวน”

— การใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมทางเพศในที่ทำงาน

– การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างไม่สุภาพ

— ขนาดของเงินเดือนที่จ่ายให้กับแมทต์ ปาร์คเกอร์ และ ลอร่า ปาร์คเกอร์ ซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาที่แต่งงานแล้ว และวิธีการที่องค์กรใช้ในการนับจำนวนคนที่อ้างว่าให้การช่วยเหลือ

“นี่เป็นองค์กรที่เป็นพิษร้ายแรง และกำลังส่งผลเสียต่อองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์อื่นๆ โดยรวม” อริสันซึ่งรับประทานอาหารเย็นกับแมทต์เมื่อปี พ.ศ. 2557 กล่าว “พฤติกรรมของพวกเขาสร้างความเสียหายให้กับองค์กรที่ดีอื่นๆ ” โปรดอ่านบทความภายในลิ้งค์นี้สำหรับข้อมูลทั้งหมด

หลักฐานเพิ่มเติมจากอดีต

https://theexodusroadopenletter.medium.com/this-open-letter-regarding-the-exodus-road-ter-and-the-actions-of-ter-ceo-matt-parker-and-5fbb3e963455

https://gobserver.net/4822/global-diaries/thailand/allegations-of-sexual-misconduct-at-exodus-road/

รูปด้านล่างนี้คือภาพหน้าจอจากหน้า Wikipedia เกี่ยวกับประวัติข้อกล่าวหาต่อ The Exodus Road เราขอแนะนำให้ท่านทุกคนติดต่อกับรายชื่อผู้คนเหล่านี้เพื่อสอบถามข้อมูลด้วยตัวท่านเอง

https://en.wikipedia.org/wiki/The_Exodus_Road

ด้านล่างเป็นภาพหน้าจอที่นำมาจาก Wikipedia

เราได้รวบรวมภาพหน้าจอล่าสุดและภาพก่อนหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงไว้ด้านล่าง

ข้อกล่าวหาต่อองค์กร The Exodus Road (คัดลอกจากวิกิพีเดีย)

อดีตพนักงานรายหนึ่งเคยกล่าวหา The Exodus Road ว่า องค์กรอนุญาตให้อาสาสมัครมีปฏิสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงสาวระหว่างปฏิบัติภารกิจ หลังจากนั้น The Exodus Road ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมายเอกชน Lewis Roca Rothgerber Christie ซึ่งดำเนินการสอบสวนที่เผยให้เห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการเมาสุราและการเปลื้องผ้าในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานขององค์กร หลักจากนั้น The Exodus Road ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากสำนักงานกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการเลิกจ้างบุคคลที่ถูกกล่าวหาและการดำเนินการทางวินัยอื่นๆ จากนั้นองค์กรได้มอบหมายให้สำนักงานกฎหมายเผยแพร่คำแถลงสรุปจากการสอบสวนต่อสาธารณะ

นอกจากนี้ The Exodus Road ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่าใช้ข้ออ้างทางศาสนาในการแทรกแซงผู้ให้บริการทางเพศ องค์กรได้ชี้แจงว่าการต่อสู้กับการค้ามนุษย์และงานบริการทางเพศของพวกเขาคือการช่วยเหลือผู้ที่ทำงานบริการทางเพศที่ถูก “บังคับ ลักพาตัว หลอก หรือบังคับขู่เข็ญ” หรือผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (ซึ่งตามกฎหมาย ถือว่าพวกเขาเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์โดยอัตโนมัติ) แต่อย่างไรก็ตาม ตามคำนิยามของ TER คำจำกัดความของการค้ามนุษย์ของสหประชาชาติได้แก่: “การสรรหา การขนส่ง การถ่ายโอน การจัดให้อยู่อาศัย หรือการรับบุคคลผ่านการบังคับ การฉ้อโกง หรือการหลอกลวง โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากพวกเขา” เท่านั้น

องค์กรยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้ศัพท์เฉพาะทางการทหาร เช่น เรียกอาสาสมัครว่า “เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลับ” เพื่อปฏิบัติภารกิจ นักวิจารณ์ The Exodus Road ระบุว่าองค์กรได้เชิญสถานีโทรทัศน์และผู้สนับสนุนให้รับชมและถ่ายทำขณะที่พวกเขาบุกจับกุมสถานบรรเทิงเพื่อระดมทุนอีกด้วย

และด้านล่างนี้คือรายชื่อบุคคลในองค์กร The Exodus Road ที่ฉ้อฉล ที่เดินทางมาพัทยาในช่วงที่มีการบุกจับกุม พวกเขาสร้างรายได้นับล้านจากการส่งเจ้าของสถานบรรเทิงผู้บริสุทธิ์เข้าคุกเพื่อเงินบริจาค เราได้ทำการติดต่อพวกเขาทั้งหมดเพื่อสอบถามความคิดเห็นของพวกเขาต่อข้อกล่าวหาดังที่กล่าวมา แต่พวกเขากลับไม่มีการตอบกลับใดๆ

แมตต์ ปาร์คเกอร์, ลอร่า ปาร์คเกอร์, ฮอลลี่ สมิธ, แอมเบอร์ แวน, เพรสตัน กอฟฟ์, แมรี่ นิกเคล, เอ็ดวิน และริคสัน ดีซูซา

https://www.instagram.com/iamlauraparker/
https://www.instagram.com/holliedsmith/
https://www.instagram.com/prestongoff/
https://www.instagram.com/marynikkel/   https://bio.site/marynikkel
https://www.instagram.com/ambernvan/
Edwin https://www.instagram.com/edesamour/

https://www.instagram.com/askrickson/ https://www.facebook.com/ricksondsouzafinance/
(เราคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในผู้ชายที่ใช้เงินบริจาคไปเที่ยวผู้หญิง) ดูภาพด้านล่าง

ทีมงาน The Exodus Road ตามภาพด้านบนใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย กลับกันผู้ให้ข้อมูลพวกเขากลับต้องซ่อนตัวเพราะพวกเขาจับผู้บริสุทธิ์เข้าคุก อาชญากรไม่ติดตามผู้ให้ข้อมูลและไม่น่าจะตรวจสอบเว็บไซต์ แต่ถ้าคุณจับผู้บริสุทธิ์เข้าคุก คุณจะต้องซ่อนตัวตน

The Exodus Road ทำผิดกฎหมายข้อใดบ้างในขณะที่ปฏิบัติงานในประเทศไทย?

สายสืบของ The Exodus Road เพรสตัน กอฟฟ์ (Preston Goff) โพสต์บน Facebook ของเขาเพื่อขอเงินทุนในการซื้อกล้องแอบถ่าย เพื่อใช้แอบถ่ายผู้อื่นในบาร์ทั่วประเทศไทย โดยเขาไม่รู้ว่าประเทศไทยมีกฎหมายว่าด้วยการห้ามแอบถ่ายผู้อื่นทั้งในสถานที่ส่วนตัวและสาธารณะ

Freedom Home in Thailand – ค่าเช่า 433 ดอลลาห์ต่อเดือนและเงินเดือนให้คนไทย 4 ตำแหน่ง 2,000 ดอลลาห์ต่อเดือน

The Exodus Road อ้างว่าพวกเขามีศูนย์พักพิงเหยื่อค้ามนุษย์ Freedom Home in Thailand คุณสามารถตรวจสอบบ้านเช่าเก่าๆ ที่พวกเขาจ่ายเงินถึง 433 ดอลลาห์ต่อเดือนเป็นค่าเช่าได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=F8uxAcMWXzQ

อย่างไรก็ตาม สถานที่แห่งนี้ไม่มีข้อมูลพิกัดทั้งภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษในอินเตอร์เน็ต แต่ The Exodus Road อ้างอิงถึงสถานที่นี้หลายครั้งบนเว็บไซต์ของพวกเขา กลับกัน มีศูนย์พักพิงเหยื่อที่อื่นๆ อีกมากมายที่เปิดเผยที่ตั้งต่อสาธารณะ ดังนั้น The Exodus Road จึงไม่สามารถอ้างได้ว่าการปกปิดข้อมูลนี้ทำไปเพื่อความปลอดภัยของเหยื่อ ความจริงก็คือ The Exodus Road อาศัยสถานที่ของรัฐบาลในการดูแลเหยื่อที่พวกเขาช่วยเหลือเพราะต้องการประหยัดค่าเช่า สถานที่ราชการเหล่านี้มักปล่อยเหยื่อกลับสู่สังคมหลังจากผ่านไป 2-4 สัปดาห์ แล้วเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีที่ The Exodus Road ได้รับหายไปไหนกันหล่ะ? ก็จ่ายเป็นเงินเดือน 280,000 เหรียญต่อปีที่ให้กับลอร่าและแมตต์บวกกับภารกิจนอกเครื่องแบบในบาร์ของพวกเขานั่นเอง

The Exodus Road โกหกว่าได้ทำการช่วยเด็กที่ถูกค้ามนุษย์ แต่พวกเขาแค่จัดฉากมันขึ้นและส่งเด็กเหล่านั้นไปให้รัฐบาลดูแล อ่านสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญพูดด้านล่าง

ลอเรน พิงค์สตัน (Lauren Pinkston) ผู้ศึกษาและนักเขียนเกี่ยวกับองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์กล่าวว่า “The Exodus Road จำเป็นต้องมีความโปร่งใสมากกว่านี้ เพราะผู้หญิงที่ได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา จำนวนมากมักจะลงเอยด้วยการกลับไปค้าประเวณีเหมือนเดิมเพราะขาดการดูแล เธอสงสัยมากว่าจะต้องหมดเงินไปเท่าไหร่กันเพื่อช่วยผู้หญิงคนเดิมซ้ำๆ เรื่อยๆ”

และนี่คือตัวอย่างต้นตอของปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย ณ ขณะนี้

เด็กหญิงคนหนึ่งใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพื่อนที่อายุถึงเกณฑ์เพื่อสมัครงานในบาร์ ไม่นาน บาร์แห่งนี้ก็ถูกตรวจค้นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลิงค์ข่าวที่นี่

หลังจากนั้นอีกเพียงสองถึงสามวัน เด็กหญิงรายนี้ก็ถูกพบในไนท์คลับอีกแห่งหนึ่งระหว่างที่เธอกำลังดื่มเหล้าร่วมกับผู้ค้าบริการทางเพศคนหนึ่ง

อีกกรณีหนึ่ง The Exodus Road อ้างว่าได้ทำการช่วยเหลือเด็กสาวคนหนึ่งตามภาพด้านล่าง แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ต้องลบโพสนี้ทิ้งไปจากทั้ง  LinkedIn Facebook และเว็บไซต์ของพวกเขาเมื่อมีคนจับได้ว่า The Exodus Road แอบใช้รูปเด็กหญิงจากเว็บไซต์สต็อกโฟโต้

พวกเขาเสียเงิน 129 ดอลลาร์ไปกับรูปสต็อกโฟโต้และอ้างว่าเธอคือเหยื่อการค้ามนุษย์

และนี่คือเด็กหญิงที่ The Exodus Road อ้างว่าช่วยเหลือ แต่จะสังเกตุได้ว่าเธอถูกนำไปทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิงของรัฐบาล ซึ่งตามข้อมูลของเว็บไซต์ของรัฐ เด็กหญิงรายนี้ถูกปล่อยตัวเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมของปีนี้ หรือเพียงหนึ่งเดือนหลังจากการช่วยเหลือ และขณะนี้เธอก็กลับมาทำงานเป็นผู้ค้าบริการและทำงานในบาร์โดยใช้บัตรประจำตัวของคนอื่นอีกครั้งตามข้อมูลของเรา

ส่วนด้านบนคือเด็กชายวัย 17 ปีอีกรายหนึ่งที่แอบใช้บัตรประชาชนเพื่อนเพื่อสมัครงานในบาร์ซึ่ง The Exodus Road อ้างว่า “บังเอิญ” ไปพบเข้า

โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความด้านล่าง
https://theexodusroad.com/operation-manipulate/

และ

These Human Trafficking Charities Make Me Sick To The Stomach

Reasons why The Exodus Road has caused more human trafficking

https://linktr.ee/theexodusroadtruth

Charity Navigator ให้คะแนน The Exodus Road ถึงระดับสี่ดาวบนเว็บไซต์ของพวกเขา แต่เมื่อเราติดต่อไปถามว่าทำไมพวกเขาถึงให้คะแนนองค์กรที่มีข้อกล่าวหาทั้ง การจ่ายเงินเดือนที่สูงเกินปกติให้ผู้ก่อตั้ง หรือการลงทุนที่มากเกินควรในการหาเงินบริจาค พวกเขากลับตอบกลับมาเพียงว่าพวกเขาอ้างอิงข้อมูลจาก IRS เท่านั้น และไม่ได้สนับสนุนองค์กร The Exodus Road แต่อย่างใด

https://www.charitynavigator.org/ein/461384815

ท่านสามารถอ่านรายชื่อผู้บริจาคของ The Exodus Road ได้ด้านล่าง 

ผู้บริจาค (รายเล็ก)
https://www.aefonline.org/

https://about.bankofamerica.com/en/making-an-impact/charitable-foundation-funding#fbid=DOLyNqlzi4g

https://www.blueridgenissan.com/

https://cbcomaha.org/

https://fieldofgreen.com/

https://awaken.church/

ผู้บริจาครายใหญ่

https://causes.benevity.org/

https://www.aidtochildren.org/our-members.html

https://cincygutterboys.com/

https://carlsonfamilyfoundation.org/

https://livetorescue.com/

https://enditmovement.com/

http://georgianna.org/

https://www.thegroveaz.org/

https://www.hendrickcars.com/hendrick-cares/caring-for-community.htm

https://www.hydrationmedia.com/

https://northstar.church/

https://passionconferences.com/

https://www.pentrustmortgage.com/

https://www.precisionacm.com/

https://samteccares.samtec.com/

https://www.seattlefoundation.org/

https://www.somethingnewboutique.com/

https://colorado-corp.com/co/st-aubyn-family-foundation

https://storehouse310turnkey.com/

https://www.ubp.com/en

https://www.valkyrieracing.com/valkyrie-gives

ผู้บริจาครายใหญ่อันดับ 2

https://24hourrace.org/

https://5daydeal.com/

https://cellebrite.com/en/home/

https://www.fidelitycharitable.org/

http://gi-inc.co/

https://www.regencywealth.com/

https://remedydrive.com/

ผู้บริจาคสูงสุด

https://acceleratedwealth.com/

https://messengerinternational.org/

https://www.mdrtfoundation.org/

https://n2gives.com/

https://www.ncfgiving.com/solutions/charities-and-churches/

https://merchlogix.com/careers/

https://pulpitrock.com/

หากคุณบังเอิญเป็นหนึ่งในผู้บริจาคของ The Exodus Road โปรดพิจารณาบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่ดีกว่าอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่นองค์กร The Freedom Story ด้านล่าง

https://thefreedomstory.org/

The Freedom Story ได้ออกมาต่อต้านการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณของแมทต์ ปาร์คเกอร์อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเขากำลังทำลายชื่อเสียงขององค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์อื่น ๆ ในประเทศไทย และทำให้คนเข้าใจผิดว่าพวกเขาก็เหมือนกันหมด